เมื่อพูดถึง “การอ่านหนังสือเรียน” หลายคนที่ได้ยินคงจะรู้ว่าเป็นเหมือนยาขม หรือเป็นเรื่องหน้าเบื่อ ยิ่งกับหนังสือที่เน้นทางด้านวิชาการด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกง่วงขึ้นมาเลยทีเดียว หรืออาจกำลังมองหาวิธีอื่นที่ช่วยในการเรียนรู้มากกว่าการอ่านหนังสือ เช่น การใช้บริการติวเตอร์ตามสถาบันกวดวิชา ฟังการเรียนการสอนผ่าน Podcast, Ted talk, Youtube ฯลฯ อย่างไรก็ตามการอ่านหนังสือก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญอยู่ดี บางครั้งการฟังอาจจะช่วยให้เราเข้าใจได้ง่ายและเร็วขึ้นก็จริง แต่ก็ไม่ได้ตอบโจทย์กับทุกเนื้อหา ยิ่งกับคนที่เรียนเฉพาะทางหรือทำงานเฉพาะทางด้วยแล้วการค้นคว้าผ่านการอ่านหนังสือก็ยังคงจำเป็นอยู่เช่นกัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้ “การอ่าน” เป็นเรื่องน่าเบื่อ ลองหันมาสร้างนิสัย รักการอ่าน ด้วยวิธ๊ต่อไปนี้ดีกว่า
1. เลิกนิสัยเจอเนื้อหาที่ยาวไปไม่อ่าน และการเลือกอ่านเรื่องที่สนใจจริง ๆ แน่นอนว่าถึงเราจะไม่ชอบอ่านหนังสือ เวลาเจอตัวหนังสือเยอะๆ หลายบรรทัด หลายหน้า รู้สึกท้อและเกิดความขี้เกียจขึ้นมาแบกะทันหันบ้าง แต่หากเราร้างแรงจูงใจที่จะอ่านเช่น เพราะมีความจำเป็นที่ต้องการจะเข้าเรื่องที่ยังสงสัยเกี่ยวกับการทำงานหรือการเรียน จึงจำเป็นต้องอ่าน เพียงเท่านี้เราก็จะเริ่มต้นอ่านด้วยการกวาดสายตาหาส่วนของเนื้อหาที่เราสนใจจริง ๆ และทำความเข้าใจ เมื่อทำบ่อย ๆ ก็จะทำให้เกิดแรงจูงใจในการอ่านหนังสือ
2. หนังสือที่จัดเป็นเรื่องราวบันเทิงสามารถทำให้เราอ่านหนังสือเยอะขึ้นได้จริง ๆ แน่นอนว่าหนังสือที่มีเนื้องหาสระที่เกี่ยวกับความบันเทิงนั้นย่อมทำให้เราสนุกกว่าการอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาทางวิชาการที่หนัก แต่เราต้องไม่ลืมที่จะใส่ใจเรื่องเรียนด้วย หากเรารู้เรื่องเกี่ยวกับคามบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น เพลง ภาพยนตร์ ศิลปิน ดารา แต่กลับไม่รู้หรือเข้าใจเนื้อหาของวิชาที่เรียน-ทำงาน ก็อาจจะกลายเป็นปัญหาในชีวิตเราได้ ทางที่ดีคือลองแบ่งเวลาในการอ่านทางด้านบันเทิงกับวิชาการให้เท่า ๆ กัน หรืออ่านหนังสือประเภทสารคดีที่มีเนื้อหาไม่หนักและยากจนเกินไปแล้วยังแฝงความสนุกไว้อีกด้วย
3. ติดตามกระแสวงการหนังสือบ้าง ว่าตอนนี้โลกเรามีหนังสือที่นำเสนอเรื่องอะไรน่าสนใจบ้าง เพราะแน่นอนว่าในแต่ละปีก็จะมีหนังสือที่ได้ถูกกล่าวขาน ทรงอิทธิพลและได้รับการยกย่องแนะนำอยู่หลายเล่ม หลายสาขาดังนั้นหากเราลองเลือกอ่านในสาขาที่เราสนใจหรือเกี่ยวข้องนอกจากจะทำให้เราได้อัพเดตข้อมูลอะไรใหม่ๆแล้วยังทำให้เราได้ไอเดียหรือข้อคิดที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตและทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน
4. แบ่งเวลาไว้สำหรับการอ่านหนังสือในแต่ละวัน เพราะใน 1 วันคนเรามี 24 ชั่วโมงเท่ากันหมด ดังนั้นหากเราใช้เวลาแบบปล่อยตัวตามสบายเวลาก็ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์แถมไม่ได้พัฒนาตนเองอีก ดังนั้นถ้าเราแบ่งเวลาไว้ว่าช่วงเวลาใดจะอ่านหนังสือก็จะทำให้เรามีทิศทางในการอ่านที่แน่นอน ประหนึ่งว่าได้ฝึกวินัยไปในตัวด้วย อาจใช้วิธีเขียนข้อความเตือนใจแล้วแปะไว้ที่โต๊ะหนังสือหรือหัวเตียง เพื่อช่วยเป็นแรงกระตุ้นให้เราอยากหนังสือให้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะหนังสือเรียนหรือหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน หรือจะจดจำให้ขึ้นใจเลยว่าเพราะทุกวันคือวันก่อนสอบ วิธีนี้แหละจะทำให้เราตื่นตัวในการจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านได้มากยิ่งขึ้น เพราะถ้าเราคิดไว้ล่วงหน้าเสมอว่าจะมีสอบในวันถัดไป วันนี้เราจะได้ตั้งใจหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน ไม่ต้องโหมอ่านแบบยาวๆ แต่เลือกอ่านแบบเก็บเล็กผสมน้อย นอกจากจะฝึกให้เราเริ่มอ่านหนังสือมากขึ้นแล้ว รับรองว่าก่อนวันสอบหรือวันนำเสนอผลงานจริง ๆ เราจะมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นอย่างแน่นอน