ความชอบของคนเรานั้นเป็นเรื่องนานาจิตตัง โดยเฉพาะเรื่องรถยนต์แล้ว รสนิยมของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป บางคนชอบรถหรู บางคนชอบรถที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ บางคนใช้รถอะไรก็ได้ขอแค่ประหยัดพลังงาน มีระบบความปลอดภัยที่ดี จะได้ไม่ต้องเลือกทำประกันภัยชั้น 1 เสมอไป เป็นการเซฟเงินทำให้ไม่ต้องเป็นภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว
แต่รถประเภทหนึ่งที่มีคนจำนวนไม่น้อยชื่นชอบมาก และถ้ามีโอกาสหลายคนก็คงจะซื้อไว้ก็คือ รถกระบะ เพราะรถแบบนี้ใช้งานได้หลายสถานการณ์ จะลุยงานก็ดี จะขับชิลก็ได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้วรถกระบะก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป ลองมาเช็กกันดีกว่าว่าตัวคุณเหมาะกับการมีรถกระบะสักคันหรือไม่
1.คุณควบคุมรถได้ดีแค่ไหน
ถ้าใครเคยมีประสบการณ์ขับรถกระบะมาบ้างและเมื่อนำมาเทียบกับรถเก๋งแล้วจะรู้เลยว่า รถกระบะขับไม่ง่ายเลย เนื่องจากรถกระบะนั้น ตัวรถจะยาวกว่าและมีความกว้างมากกว่า มีส่วนท้ายที่ทำไว้รองรับกระบรรทุกน้ำหนัก รวมไปถึงกระบะในปัจจุบันจะมีล้อยางที่ขนาดใหญ่ขึ้น องค์ประกอบทั้งหมดทำให้ขับยาก ถ้าคุณควบคุมรถได้ไม่เก่งนัก บอกเลยว่าเลี่ยงรถกระบะจะดีกว่า การขับขี่จะได้ปลอดภัย
2. Cab เอาไว้โดยสาร…ใช่หรือไม่?
ถ้าคุณยังเข้าใจว่าส่วน Cab ของรถกระบะเอาไว้ให้คนนั่งโดยสารได้ ก็บอกเลยว่ารถกระบะไม่เหมาะกับคุณ สิ่งที่คุณควรรู้ไว้ก็คือ ส่วน Cab กระบะนั้น ไม่ได้ถูกออกแบบไว้ให้คนใช้นั่งโดยสารมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ในต่างประเทศจะรู้กันเลยว่าส่วนนี้เอาไว้ใช้บรรทุกของ ก็มีแต่ในเมืองไทยเรานี่เองที่มาใช้บรรทุกคนด้วย ซึ่งจริง ๆ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
อีกประเด็นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็คือ เรื่องของการประกันภัยรถกระบะ ถ้าทำประกันภัยชั้น 1 แล้วรถเกิดอุบัติเหตุ ประกันจะคุ้มครองความเสียหายของบุคคลเพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าประกันคิดตามหลักที่นั่งโดยสารของรถ ซึ่งถ้ามีคนโดยสารที่ Cab จะกี่คนก็ตาม หากบาดเจ็บหรือเสียชีวิตประกันก็จะไม่ดูแลคุ้มครองในส่วนนี้
3.ไม่ซีเรียสเรื่องความประหยัด
ถ้าคุณเข้าใจดีว่าเครื่องยนต์ดีเซลไม่ได้ประหยัดอย่างที่คิด และยอมรับได้ในข้อนี้ คุณก็สามารถเป็นเจ้าของรถกระบะได้ เพราะรถกระบะจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งสมัยก่อนจะเชื่อกันว่าเครื่องยนต์ดีเซลจะช่วยประหยัดพลังงานได้มาก แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น มีกระบะหลายรุ่นที่ซดน้ำมันเยอะ ถ้าคุณซีเรียสเรื่องประหยัดน้ำมัน รถกระบะในปัจจุบันอาจทำให้คุณผิดหวังได้
4.รับเรื่องค่าบำรุงรักษาได้แค่ไหน
บอกเลยว่ารถกระบะนั้นมีค่าบำรุงรักษารถที่ไม่น้อยเลย หลาย ๆ อย่างจะแพงขึ้นกว่ารถเก๋งหลายเท่า ตรงนี้คุณต้องสำรวจตัวเองว่ารับได้ไหม และรับมือได้แค่ไหน เพราะถ้ายิ่งใช้งานนานใช้งานหนัก ค่าบำรุงรักษาก็จะยิ่งแพงขึ้นไปเรื่อย ๆ เอาแค่เรื่องภาษี ถ้าเกิดคุณเลือกซื้อเป็นกระบะแบบ 4 ประตู รถจะถูกขึ้นทะเบียนเป็นรถเก๋ง ซึ่งจะต้องเสียภาษีในอัตรารถเก๋งไม่ใช่รถกระบะ
แม้ว่าคุณจะซื้อรถกระบะที่เครื่องยนต์เล็กแล้วก็ตาม แต่ถ้าเสียภาษีในอัตรารถเก๋ง บวกกับต้องจ่ายประกันภัยชั้น 1 และค่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ค่าซ่อมบำรุงต่าง ๆ หนึ่งปีต้องมีหลายหมื่นบาท ถ้าค่าใช้จ่ายตรงนี้ไม่เป็นปัญหา คุณก็ซื้อได้เลย
อย่างที่กล่าวไปรถกระบะมีข้อดีและจุดเด่น แต่ในขณะเดียวกันก็มีข้อด้อยที่สะท้อนว่าไม่ใช่รถที่เหมาะกับทุกคนด้วย คุณจึงต้องเช็กให้ดีว่ารับข้อจำกัดต่าง ๆ เหล่านั้นได้หรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไรจะซื้อรถแบบไหนก็ตาม การมีประกันภัยไว้ก็เป็นเรื่องสำคัญ และถ้าจะให้ดีทำประกันภัยชั้น 1 ไปเลยความคุ้มครองจะได้ครอบคลุม ช่วยให้เราเบาใจได้มากขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา